ข้อมูลเกี่ยวกับ RAM ชนิดต่าง

ข้อมูลเกี่ยวกับ RAM ชนิดต่าง


RAM ย่อมาจาก (Random Access Memory) เป็นหน่วยความจำหลักที่จำเป็น หน่วยความจำ ชนิดนี้จะสามารถเก็บข้อมูลได้ เฉพาะเวลาที่มีกระแสไฟฟ้าหล่อเลี้ยงเท่านั้นเมื่อใดก็ตามที่ไม่มีกระแสไฟฟ้า มาเลี้ยง ข้อมูลที่อยู่ภายในหน่วยความจำชนิดจะหายไปทันที หน่วยความจำแรม ทำหน้าที่เก็บชุดคำสั่งและข้อมูลที่ระบบคอมพิวเตอร์กำลังทำงานอยู่ด้วย ไม่ว่าจะเป็นการนำเข้าข้อมูล (Input) หรือ การนำออกข้อมูล (Output) โดยที่เนื้อที่ของหน่วยความจำหลักแบบแรมนี้ถูกแบ่งออกเป็น 4 ส่วน คือ
1. Input Storage Area เป็นส่วนที่เก็บข้อมูลนำเข้าที่ได้รับมาจากหน่วยรับข้อมูลเข้าโดย ข้อมูลนี้จะถูกนำไปใช้ในการประมวลผลต่อไป
2. Working Storage Area เป็นส่วนที่เก็บข้อมูลที่อยู่ในระหว่างการประมวลผล
3. Output Storage Area เป็นส่วนที่เก็บผลลัพธ์ที่ได้จากการประมวลผล ตามความต้องการของผู้ใช้ เพื่อรอที่จะถูกส่งไปแสดงออก ยังหน่วยแสดงผลอื่นที่ผู้ใช้ต้องการ
4. Program Storage Area เป็นส่วนที่ใช้เก็บชุดคำสั่ง หรือโปรแกรมที่ผู้ใช้ต้องการจะส่งเข้ามา เพื่อใช้คอมพิวเตอร์ปฏิบัติตามคำสั่ง ชุดดังกล่าว หน่วยควบคุมจะทำหน้าที่ดึงคำสั่งจากส่วน นี้ไปที่ละคำสั่งเพื่อทำการแปลความหมาย ว่าคำสั่งนั้นสั่งให้ทำอะไร จากนั้นหน่วยควบคุม จะไปควบคุมฮาร์ดแวร์ที่ต้องการทำงานดังกล่าวให้ทำงานตามคำสั่งนั้นๆ

ชนิดของ Ram
รูปภาพ
ข้อมูลของ Ram
Static Random Access Memory (SRAM)




จะต่างจาก DRAM ตรงที่ว่า DRAM จะต้องทำการ refresh ข้อมูลอยู่ตลอดเวลา แต่ในขณะที่ SRAM จะเก็บข้อมูลนั้นๆ ไว้ และจะไม่ทำการ refresh โดยอัตโนมัติ ซึ่งมันจะทำการ refresh ก็ต่อเมื่อ สั่งให้มัน refresh เท่านั้น ซึ่งข้อดีของมัน ก็คือความเร็ว ซึ่งเร็วกว่า DRAM ปกติมาก แต่ก็ด้วยราคาที่สูงกว่ามาก จึงเป็นข้อด้อยของมันเช่นกัน
Dynamic Random Access Memory (DRAM)





DRAM จะทำการเก็บข้อมูลในตัวเก็บประจุ ( Capacitor ) ซึ่งจำเป็นจะต้องมีการ refresh เพื่อ เก็บข้อมูลให้คงอยู่ โดยการ refresh นี้ ทำให้เกิดการหน่วงเวลาขึ้นในการเข้าถึงข้อมูล และก็เนื่อง จากที่มันต้อง refresh ตัวเองอยู่ตลอดเวลานี้เอง จึงเป็นเหตุให้ได้ชื่อว่า Dynamic RAM ปัจจุบันนี้แทบจะหมดไปจากตลาดแล้ว
Fast Page Mode DRAM (FPM DRAM)

FPM นั้น ก็เหมือนๆกับ DRAM เพียงแต่ว่า มันลดช่วงการหน่วงเวลาในขณะเข้าถึงข้อมูลลงทำให้มัน มีความเร็วในการเข้าถึงข้อมูลสูงกว่า DRAM และสำหรับอัตราการส่งถ่ายข้อมูลสูงสุดประมาณ176 MBps
Extended-Data Output (EDO) DRAM



EDO DRAM มันจะอ้างอิงตำแหน่ง ที่อ่านข้อมูลจากครั้งก่อน ปกติแล้วการดึงข้อมูลจาก RAM ณ ตำแหน่งใดๆ มักจะดึงข้อมูล ณ ตำแหน่งที่อยู่ใกล้ๆ และมีความเร็วสูงกว่า FPM ประมาณ 5 %
อัตราการส่งถ่ายข้อมูลสูงสุดของอยู่ที่ 264 MBps
Synchronous DRAM (SDRAM)






SDRAM จะทำงานตามสัญญาณนาฬิกาขาขึ้น เพื่อรอรับตำแหน่งที่ต้องการให้มันอ่าน แล้วจากนั้น มันก็จะไปค้นหาให้ และให้ผลลัพธ์ออกมา หลังจากได้รับตำแหน่งแล้ว เท่ากับ ค่า CAS เช่น CAS 2 ก็คือ หลังจากรับตำแหน่งที่จะอ่านแล้ว มันก็จะให้ผลลัพธ์ออกมา ภายใน ลูกของสัญญาณนาฬิกา
ซึ่งความเร็วของมันนั้นจะเร็วกว่า EDO DRAM ประมาณ 5% ซึ่งจะมีความเร็วสูงสุดประมาณ 528 MBps
Double data rate synchronous dynamic RAM ( DDR SDRAM )



DDR DRAM แยกออกมาจาก SDRAM โดยจุดที่ต่างกันหลักๆ ของทั้งสองชนิดนี้คือ DDR SDRAMนี้ สามารถที่จะใช้งานได้ทั้งขาขึ้น และ ขาลง ของสัญญาณนาฬิกา เพื่อส่งถ่ายข้อมูลนั่นก็ทำให้อัตราส่งถ่ายเพิ่มได้ถึงเท่าตัว ซึ่งจะมีอัตราส่งถ่ายข้อมูลสูงสุดถึง 1064 MBps ใช้งานที่ความถี่133 MHZ
Rambus DRAM (RDRAM)












RDRAM ออกแบบแยกจาก DRAM ออกแบบโดย RAMBUS โดยปัจจุบันได้เอาหลักการของ RAMBUS มาพัฒนาและทำการปรับแต่งใหม่โดยการลด pin, รวมstatic buffer, และ ทำการปรับแต่งทาง interface ใหม่ DRAM นั้น สามารถทำงานได้ทั้งขอบขาขึ้นและลง ของสัญญาณนาฬิกา และ เพียงช่องสัญญาณเดียว ของหน่วยความจำแบบ RAMBUS นี้ มี Performance มากกว่าเป็น เท่า และจะให้อัตราการส่งข้อมูลด้วยความเร็วถึง 800 MHz – 1600 MHz
Credit Card Memory
Credit card memory คือส่วนที่ถูกบรรจุอยู่ใน หน่วยความจำ DRAM ซึ่งมันจะเป็นส่วนที่ประกอบอยู่ใน ช่องเสียบ slot ของ Notebook Computer
PCMCIA Memory Card




จะ มีขนาดประมาณเครดิตการ์ด มีความทนทานและใช้พลังงานต่ำเมื่อเทียบกับ hard   disk หรือหน่วยความจำที่ต่อผ่าน I/O peripherals แบบอื่น ๆ ถือว่าเป็นหน่วยเก็บข้อมูลภายนอกที่มีความสมบูรณ์แบบมาก ช่วยให้เราสามารถเก็บโปรแกรมหรือไฟล์ข้อมูลไปไหนต่อไหนได้สะดวก และสามารถนำไปใช้กับคอมพิวเตอร์เครื่องอื่น ๆ ที่มีช่องใส่ PC Cards
CMOS RAM
CMOS ใช้เทคโนโลยีขนิดเดียวกับการออกแบบ Chip จากต้นแบบของ IBM ซึ่งมันถูกนำไปใช้ในอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ ซึ่งมันต้องใช้พลังงานจากแบตเตอร์รี่ในการรักษาความจำ
VRAM





VRAM เป็น แรมประเภทหนึ่งซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อใช้ทำงานเกี่ยวกับ Video เพราะมันถูกออกแบบมาใช้บน Display Card โดย VRAM นี้ ก็มีพื้นฐานมาจาก DRAM เช่นกัน แต่ที่ทำให้มันต่างกัน ก็ด้วยกลไกบางอย่างที่เพิ่มเข้ามา โดยที่ VRAM นั้น จะมี serial port พิเศษเพิ่มขึ้นมาอีก หรือ 2 port ทำให้เรามองว่ามันเป็น RAM แบบ พอร์ทคู่ ( Dual-Port ) หรือ ไตรพอร์ท ( Triple-Port ) Parallel Port ซึ่งเป็น Standard Interface ของมัน จะถูกใช้ในการติดต่อกับ Host Processor เพื่อสั่งการให้ทำการ refresh ภาพขึ้นมาใหม่ และ Serial Port ที่เพิ่มขึ้นมา จะใช้ในการส่งข้อมูลภาพ ออกสู่ Display ซึ่งในปัจจุบันนั้นราคาของมันยังคงแพงอยู่มากซึ่งส่วนมากนั้นจะนิยมใข้ SGRAM แทน ซึ่งคุณภาพของ SGRAM ใกล้เคียงกับ VRAM มากและยังถูกกว่าด้วย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น